ซันซัส หัวหน้าของวาเรีย(
แก๊งที่รวบรวมนักฆ่าหัวกะทิ ทำงาน
กันอย่างอิสระภาย
ใต้สังกัดของวองโกเล่) และ
เป็นลูกชายของวองโกเล่รุ่น 9
เป็นคนเย่อหยิ่งถือตัวมักใช้อำนาจ
และความโกรธในการคุมคน
เป็นคนที่ลูกน้องต่างก็เกรงกลัว
และนับถือ แต่จริงๆแล้ว เขาไม่ได้
เป็นคนในตระกูลวองโกเล่ แต่ก็
เพราะเขานั้นสามารถ
ใช้เปลวไฟดับเครื่องชนได้ตั้งแต่
ยังเด็ก แม่ของเขาจึงเชื่อว่า
เขาสืบสายเลือดมาจากวองโกเล่รุ่นที่
9 หลังจากที่เขาได้รู้ความจริงจึง
ได้ทำการก่อกบฏครั้งใหญ่
ซึ่งวองโกเล่เรียกเหตุการณ์ครั้ง
นั้นว่า "คดีเปลเด็ก" แต่ทำการ
ไม่สำเร็จจึงถูกวองโกเล่รุ่นที่9จับแช่
ไว้ในน้ำแข็งและหลับใหลมาตลอด
เป็นเวลา 8 ปี ภายหลัง
ได้ถูกปลดปล่อยและมาเป็นคู่แข่ง
ในการแข่งชิงแหวนแห่งวองโกเล่
และตำแหน่งวองโกเล่รุ่นที่ 10 กับ
สึนะ หลังพ่ายแพ้แก่สึนะได้มา
เป็นบอสของวาเรียตามเดิม ซันซัส
เป็นคนที่ทะเยอทะยานอยาก
ได้ทุกสิ่งทุกอย่างมาไว้
ในครอบครองไม่ว่าต้องแลก
ด้วยอะไรก็ตามเขาก็ยอมที่
จะสละใครที่ใข้ประโยชน์อะไรไม่ได้
แล้วก็
จะโยนทิ้งเหมือนหมากตัวหนึ่งแม้ว่าค
นคนนั้นจะเป็นพ่อของตน
หรือเพื่อนรักตัวเอง ถึงแม้ซันซัสจะ
เป็นคนโลภที่
ต้องการตำแหน่งบอสของวองโกเล่
จากสึนะมาตลอดแต่ก็รักวองโกเล่ยิ่ง
กว่าชีวิต ถ้ามีภัยคุกคาม
จากภายนอกเขาก็
จะพยายามปกป้องวองโกเล่อย่างสุด
ความสามารถ
[แก้] ข้อมูลส่วนตัว
สิ่งที่ชอบพูดเป็นพิเศษ : ไอ้สวะ
สิ่งที่ไม่ชอบ : ทุกอย่างนอก
จากตัวเอง
เครื่องดื่นที่ชอบ : เทคิวล่า, วิสกี้
งานอดิเรก : เช็คสภาพกับทำ
ความสะอาดปืน แกล้งสควอโล
อายุ : 24 ปี
วันเกิด : 10 ตุลาคม
ราศี : ตุล
กรุ๊ปเลือด : A
ส่วนสูง : 193 เซน
น้ำหนัก : 90 กิโล
ประเทศที่เกิด : อิตาลี
สัตว์ประจำตัว : ไลเกอร์
[แก้] เทคนิคและอาวุธที่ใช้
อาวุธ
ปืนแบบเดียวกับวองโกเล่รุ่นที่ 7 ที่
สามารถรวบรวมเปลวไฟจำนวนมากเ
อาไว้ในรังเพลิง
และโจมตีออกมารวดเดียว ซันซัส
ใช้ปืนนี้ผสานกับเพลิงพิโรธ ทำให้
เป็นได้ทั้งอาวุธพลังโจมตีสูง
และไอพ่นในการขับเคลื่อน
อาวุธกล่อง
ไลเกอร์นภาวายุ ไลเกอร์
เทมเปสเตอร์ ดิ เซียลโล่ (เบสเตอร์)
ซันซัสจะใส่ไฟธาตุนภา
และเพลิงพิโรธลงไปในกล่องพร้อม
กัน เมื่อมันคำรามทุกสิ่งทุกอย่าง
จะกลายเป็นหิน
ด้วยคุณสมบัติผสานของธาตุนภา
และโดนทำลาย
ด้วยคุณสมบัติไฟธาตุวายุ (
เป็นผลกระทบจากเพลิงพิโรธ)
ท่าไม้ตาย
เพลิงพิโรธ
เป็นลักษณะของบอลแสงแบบเดียว
กับวองโกเล่รุ่นที่ 2
มีพลังทำลายล้างสูง
พอทโชโร่ ดี เฟียนมา (
เสียงเพลิงคำราม)
โคลโป้ ดัททีโอ้ (กระสุนสั่งลา)
มัลเทโร ดีเฟียนมา (ลูกตุ้มเพลิง)
สคอตปีโอ ดีร่า (ระเบิดเพลิงพิโรธ)
[แก้] บทบาท
ปฏิบัติการณ์บนเกาะมาเรเดียโวลา(
พบเฉพาะในไลท์โนเวลเล่ม 2)
เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นเกือบหนึ่งเดือนก่อ
นจะเกิดศึกชิงแหวน ซึ่ง
จะอธิบายปัญหาข้อสงสัยอัน
เป็นปริศนาทั้งหมดเกี่ยว
กับตัวซันซัสว่า
ทำไมคนที่ถูกลงโทษ
ในข้อหาก่อการกบฎไปเมื่อ8
ปีก่อนอย่างซันซัส
ถึงกลับมายืนหยัด
ในฐานะหัวหน้าหน่วยวาเรียได้อีก
ทำไมลูกชายคนเดียวของรุ่นที่9 ถึง
ได้ลงมือก่อการกบฏได้
และระหว่างระยะเวลา8ปีอันยาวนาน
เขาใช้ชีวิตอยู่ที่ไหน และอย่างไร
โดยเรื่องราวเริ่มต้นขึ้น
จากการบุกจู่โจม
และยึดครองเกาะมาเรเดียโวลาของเ
หล่าทหารไม่ทราบสังกัด ซึ่งพวกเขา
ได้จับคนบนเกาะมาเป็นตัวประกัน
โดยภารกิจในการช่วยเหลือตัวประ
กันครั้งนี้อยู่ใน
ความรับผิดชอบของออตตาวิโอหัวห
น้าระดับสูงของวองโกเล่และ
เป็นอดีตรองหัวหน้าของวาเรีย
ซันซัสได้นำลูกน้องกลุ่มวาเรีย
ทั้งหมดมาร่วมในแผนปฏิบัติการณ์นี้
โดยเขาสั่งให้ลูกน้อง
ทั้งหมดเริ่มทำตามแผนที่วางไว้
ส่วนตนเองก็คอยสั่งการ
อยู่ที่ฐานพร้อมกับออตตาวิโอ
ระหว่างที่พรรคพวกกำลังดำเนินภาร
กิจซันซัสได้สนทนากับออตตาวิโอ
ถึงเรื่องเก่าๆ จนเขา
สามารถจับผิดออตตาวืโอ
ได้ว่าอดีตรองหัวหน้าของวาเรียคนนี้
เป็นคนที่ขายเขาให้กับรุ่นที่เก้า
โดยทำการบอกแผนการก่อกบฏของ
ซันซัสให้กับรุ่นที่เก้ารู้โดยแลก
กับตำแหน่งอันสูงส่งในวองโกเล่
หลังจากที่ลูกน้อง
ได้ทำภารกิจสำเร็จซันซัสก็
ได้ฆ่าออตตาวิโอคนทรยศจน
ไม่เหลือแม้แต่เถ้าถ่าน
ศึกชิงแหวนธาตุนภารอบสุดท้าย
ศึกนี้เป็นศึกตัดสินระหว่างสึนะ
และซันซัส ที่เป็นตัวกำหนดว่าใครจะ
เป็นผู้เหมาะสม
กับตำแหน่งบอสของวองโกเล่คนถัด
ไป โดยมีกติกาที่แตกต่างจากรอบ
อื่นๆ คือนอกจากจะ
ต้องชิงแหวนของนภาแล้ว ทั้งคู่ยัง
ต้องสู้เพื่อชิงแหวนทั้ง 6วง ของเหล่า
ผู้พิทักษ์เพื่อนำไปรักษาพิษเดธฮีธเต
อร์ที่ฉีดจากริสแบนด์ที่ผู้พิทักษ์
ทั้งสองฝ่ายสวมอยู่ หากปล่อยไว้เกิน
30นาที คนผู้นั้นก็จะตาย
โดยสถานที่แข่งขัน คือ
โรงเรียนนามิโมริ โดย
ในช่วงแรกซันซัสเป็นฝ่ายได้เปรียบ
เนื่องจากประสบการณ์ต่อสู้
และพลังที่แตกต่างกันเกินไปหน้ำซ้ำ
เขายังสามารถช่วยเหลือ
ผู้พิทักษ์ของตัวเองได้อีก ทำ
ให้สึนะแทบไม่มีโอกาสชนะ
ในศึกนี้เลยแต่หลังจากที่สีนะเริ่มใช้ "
เดือดทะลุจุดศูนย์ฉบับดัดแปลง"
ดูดซึมเปลวไฟของซันซัสก็ทำ
ให้สถานการณ์ความได้เปรียบตก
เป็นของฝ่ายสึนะ จนซันซัส
ต้องบาดเจ็บสะบักสะบอม
ในตอนท้ายแต่เมื่อความโกรธทะลุ
ถึงขีดสุดเขา
ได้เปิดเผยแผลเก่าที่รุนที่เก้าฝากไว้
และเริ่มจู่โจมสึนะอย่างไม่ยั้งคิด
จนสุดท้ายก็ถูกสึนะใช้ "
เดือดทะลุจุดศูนย์ฉบับดั้งเดิม"
แช่แข็งหลับใหลไปอีกครั้งแต่พวกมา
มอนได้ชิงแหวน
จากพวกสึนะไปละลายน้ำแข็งที่ผนึก
เขาไว้ ทำให้เขาตื่นขึ้น
จากการหลับใหลและพร้อมที่รับพลัง
จากวองโกเล่ริง
แต่ทว่าแหวนกลับปฏิเสธซันซัสเนื่อง
จากเขาไม่ได้สืบสายเลือดที่แท้จริง
จากวองโกเล่และรู้ว่าเขาไม่
ใช่ลูกชายที่แท้จริงของรุ่นที่เก้าทำ
ให้ศึกนี้จบลงด้วยชัยชนะของสึนะ
ศึกยุทธศาสตร์ระหว่างวองโกเล่
และมิลฟิลโอเล่
ซันซัสมีบทบาทในศีกนี้
จากการที่จิลพี่ชายฝาแฝดของเบลเฟ
กอลซึ่งเป็นหนึ่งในหกบุปผาอาลัย
ได้นำกองกำลังบุกจู่โจมปราสาทที่
เป็นที่ตั้งมั่นของเหล่าวาเรีย จิล
และออลเกลท์พ่อบ้าน
ได้ทำการบุกทะลวงจู่โมผ่านด่านเบล
และฟราน
เข้ามาทำลายตัวปราสาทจนได้พบ
กับซันซัส จิลและออลเกลท์
ได้รวมกำลังกันจู่โจมซันซัสแต่ก็ไม่
สามารถทำอะไรซันซัสได้ สุดท้าย
ทั้งคู่ก็จบชีวิตด้วยพลังของเบสเตอร์(
ไลเกอร์นภาวายุ)ในการทำให้
เป็นหิน
ด้วยคุณสมบัติผสานของธาตุนภา
และโดนทำลาย
ด้วยคุณสมบัติไฟธาตุวายุ
ศึกสุดท้ายของภาคอนาคต
ซันซัสมีบทบาทในศึกนี้จากการที่
เขานำกองกำลังเข้า
ช่วยเหลือพวกโกคุเดระที่ถูกซาคุโร่
และบูลเบลจู่โจมรุมกระหนาบจนร่าง
กายบาดเจ็บสะบักสะบอม ซันซัส
เข้าจู่โจมซาคุโร่แต่ก็ไม่
สามารถทำอะไรได้มากนัก
ในระหว่างที่ซาคุโร่หันเห
ความสนใจของซันซัสคิเคียวก็
เข้าจู่โจมทำร้ายจน
สามารถฆ่าซันซัสได้ในที่สุด
แต่ทว่าซันซัสที่ถูกทำร้ายกลับ
เป็นแค่ภาพลวงตาที่มุคุโร่
และฟรานสร้างขึ้น ซันซัสได้ร่วมมือ
กับกลุ่มของมุคุโร่และพวกของสึนะ
เข้าโจมตีหกบุปผาอาลัยที่เหลือ
ระหว่างนั้นเบียคุรันก็ได้ส่งโกสต์
เข้ามาดูดไฟของซันซัส
และทุกคนที่ร่วมสู้ในศึกนั้นจนหมด
ไม่เหลือเรี่ยวแรงที่จะต่อสู้อีก สุดท้าย
ได้แต่ยืนนิ่งมองดูการต่อสู้ครั้งสุดท้า
ยระหว่างสึนะกับเบียคุรัน