หน่วยที่หก(หน่วยคุ้มกันและดูแลนักโทษ)
ดอกไม้ประจำหน่วย สึบากิ(คาเมลเลีย) [อุดมคติอันสูงส่ง]
ตราสัญลักษณ์ ดอกสึบากิ
หรือดอกคาเมเลีย
ซึ่งภาษาดอกไม้ของดอกสึบากินั้นจะแตกต่างกันออกไปตามสีดอกว่าเป็นสึบากิขาว แดงหรือว่าม่วง
แต่ใน Official Bootleg ใช้ภาษาดอกไม้ในความหมายกลาง คือ "อุดมคติอันสูงส่ง" เข้ากะพี่เบียดีนะ
ชื่อเบียคุยะ ใช้ตัวคันจิ เบียคุ แปลว่า สีขาว กับ ยะ ที่แปลว่า เครื่องหมายคำถาม ความสงสัย รวมความได้ว่า คำถามสีขาว หรือ ความสงสัยสีขาว ก็ได้
ส่วนภรรยาเบียคุยะชื่อ ฮิซานะ ใช้ตัว ฮิ แปลว่า สีแดง กับ ซานะ แปลว่า ความจริง รวมความได้ว่า ความจริงสีแดง ตราสัญลักษณ์ดอกไม้ก็มีทั้งสีขาวและแดง 55555
ในหมู่ยมทูตทั้งหมดนั้นต่างรู้ดีว่า ความเข้มงวดและเคร่งครัดของหัวหน้าคุจิกินั้นเป็นที่เลื่องลือ แต่เมื่อมีรองหัวหน้าหน่วยที่ไม่เคร่งครัด ก็เหมือนจะปรับสมดุลย์ได้อย่างลงตัวพอดี
หัวหน้าหน่วยที่หก คุจิกิ เบียคุยะ
“กฎเกณฑ์ซึ่งสถิตในแววตา”
เป็นผู้สืบทอดของตระกูลคุจิกิ ซึ่งเป็นหนึ่งในสี่ตระกูลขุนนางรุ่นที่ยี่สิบแปดและยังเป็นพี่ชายบุญธรรมของคุจิกิ ลูเคียอีกด้วย มักจะถูกคนอื่นคิดว่าเป็นคนที่เย็นชา แต่แท้จริงนั้น กลับเป็นคนที่อบอุ่น
ประวัติส่วนตัว
วันเกิด / 31 มกราคม
ส่วนสูง / 180 เซนติเมตร
น้ำหนัก / 64 กิโลกรัม
ดาบฟันวิญญาณ / เซ็มบงซากุระ
คำปลดปล่อย / “จงโปรยปราย เซ็มบงซากุระ”
บังไค / เซ็มบงซากุระ คาเงโยชิ
ความชอบส่วนตัว / เดินเล่นยามราตรี
ความถนัดส่วนตัว / คัดอักษร
อาหาร / อาหารที่ชอบ - อาหารเผ็ด
อาหารที่ไม่ชอบ - อาหารหวาน
การพักผ่อนสบายๆในวันหยุด / เข้าร่วมวาระประชุมของสี่ตระกูลขุนนาง อ่านหนังสือหรือคัดอักษรเพื่อทำใจให้สงบ
*ลับสุดยอด
คฤหาสน์คุจิกินั้นมีอาณาเขตกว้างขวางมาก ถึงขนาดที่มีแม่น้ำไหลผ่านถึงหน้าห้องของเบียคุยะเลยทีเดียว และเมื่อเข้ามาในคฤหาสน์ก็จะพบกับบึงแห่งหนึ่งซึ่งในนั้นจะมีปลาโค่ยที่เลี้ยงกันมารุ่นต่อรุ่นอยู่ เป็นปลาโค่ยที่แปลกประหลาดเพราะมีขนาดใหญ่กว่าปกติร่วมสามเท่า และยังมีเกล็ดเป็นประกายสีทองอีกด้วย แต่พักหลังนี้จำนวนของมันกลับลดลงไปเรื่อยๆ จากเดิมที่มีอยู่สิบตัวกลับเหลือเพียงสี่ตัว แต่ก็มีข่าวลือมาจากข้ารับใช้ของตระกูลคุจิกิว่า ตอนกลางดึกนั้น ยาจิรุ จะแอบเข้ามาจับปลาโค่ยไปเพื่อเอาไปเป็นของเยี่ยมอุคิทาเกะ แล้วเอาปลาโค่ยไปปล่อยในวังฤดูฝนของอุคิทาเกะ “พักหลังๆนี้มีปลาโค่ยตัวใหญ่เพิ่มมาเยอะเลย!” อุคิทาเกะให้การอย่างอารมณ์ดี
ความสามารถในการรบ คุจิกิ เบียคุยะ
พลังโจมตี 90
พลังป้องกัน 80
การเคลื่อนไหว 90
วิถีมาร/แรงกดดันวิญญาณ 90
ภูมิปัญญา 90
พลังกาย 70
พลังในการรบที่สูงส่งของหัวหน้าหน่วยคุจิกิ เหมาะสมกับการเป็นนักสู้เต็มรูปแบบ ความสามารถนั้นไร้ซึ่งจุดบอด
sasarai's comment : ติดใจเรื่องคดีปลาโค่ยหายสาปสูญจริงๆ
ยาจิรุ จะแอบเข้ามาจับปลาโค่ยไปเพื่อเอาไปเป็นของเยี่ยมอุคิทาเกะ <----- เป็นเด็กดีเหมือนกันนี่นา เจตนาดี แต่วิธีการไม่ถูกต้องนะยาจิรุจัง แต่แอบเข้าไปจับปลาโดยที่เจ้าของบ้านอย่างเบียคุยะจับไม่ได้นี่ก็ถือได้ว่าไม่ธรรมดาจริงๆ เลย
“พักหลังๆนี้มีปลาโค่ยตัวใหญ่เพิ่มมาเยอะเลย!” อุคิทาเกะให้การอย่างอารมณ์ดี <----- รับของโจรมาแท้ๆ เฮียยังไม่รู้ตัวอีก แถมไอ้ปลาโค่ยตัวใหญ่ขนาดนั้นแถมมีเกล็ดสีทองอร่ามแบบนั้น มันมีอยู่บ้านคุจิกิที่เดียวไม่ใช่เหรอเฮีย
ชื่อคุจิกะ กินเรน์
อดีตหัวหน้าหน่วย 6 (ปู่เบียคุยะ สงสัยตระกูลนี้อยู่หน่วยนี้มาตลอด)
ภาคอดีต........จาก อาชิโดะคุง
หน่วย6.หัวหน้าหน่วย-คุจิกิ งินเรย์
รองหัวหน้า-ไม่ทราบครับ
หัวหน้าหน่วยตระกูลคุจิกิประจำหน่วยพิทักษ์ที่6 จริงๆแล้วเราเองก็ได้เห็นคุณปู่คนนี้มานานแล้ว
ก่อนที่อ.คุโบะแกจะเขียนตอนTurn Backออกมาอีกครับ
(ตอนที่เร็นจินึกย้อนอดีตตอนที่เห็นเบียคุยะรับลูเคียเข้าตระกูลคุจิกิ คนที่แก่ๆที่ยืนอยู่ข้าง้บียคุยะก็งินเรย์นี้แหล่ะครับ
และก็ยังโผล่มาอีกในตอนที่ลูเคียคุยกับเบียคุยะหลังจากไอเซ็นไปฮูเดโก้มุนโด้ จะเป็นฉากที่งินเรย์โผล่มาบอกลูเคีย
ว่าสาเหตุที่เบียคุยะรับลูเคียเข้าตระกูลก็เพราะถูกใจที่ลูเคียหน้าตาเหมืนอ"ฮิซานะ" เมียของพี่เบียแกครับ)
จริงๆแล้วตอนแรกๆที่เห็นแกเนี้ย ผมนึกว่าปู่เค้าจะเป็นพ่อบ้านประจำตระกูลแบบ"วาตาริ"จากDeath Noteรืออะไรแนวๆนั้นซ่ะอีก
ที่ไหนได้...ระดับหัวหน้าหน่วยชัดๆ- -* แถมยังเป็นหัวหน้าหน่วยอีกคนที่อายุต้องเยอะไม่ใช่เล่นเลยทีเดียว
ตอนแรกผมก็นึกว่า ไม่แน่ปู่งินเรย์คนนี้แกอาจจะเป็นเพื่อนคุยกันภาษาคนแก่กับปู่ทวดยามะซ่ะอีก แต่ดูๆไปก็คงจะไม่ใช่
เพราะว่านอกจากตัวท่านปู่ทวดยามะแล้ว ก็มีอีก3คนเท่านั้นที่ดำรงตำแหน่งหัวหน้าหน่วยมาเกิน100ซึ่งก็ไม่ใช่งินเรย์
เพราะฉะนั้น...อดครับ- -? มาเข้าเรื่องกันต่อ ข้อมูลดาบฟันวิญญาณของแกนั้น ผมเองก็ยังไม่ทราบครับ
แต่ผมคาดว่า(คาดว่านะ)ไม่แน่ว่าดาบฟันวิญญาณของงินเรย์นั้น น่าจะเป็นดาบเล่มเก่งของเบียคุยะ "เซ็มบง ซากุระ"นี้แหล่ะครับ
เพราะว่า...ขนาดตำแหน่งหัวหน้าหน่วย6ยังเป็นตระกูลคุจิกิมา2รุ่นแล้ว(อาจจะมากกว่านั้นอีกก็ได้)ไม่แน่เหมือนกัน
ว่าดาบฟันวิญญาณเล่มนี้เองก็อาจจะเป็นของสืบทอดมาได้เหมือนๆกับตำแหน่งเช่นกันครับ เรื่องความสามารถของปู่แกนั้น
นอกจากที่ผมคาดเดาเอาไว้นั้นก็แทบไม่มีอะไรในก่อไผ่ครับ คือ...ปู่แกยังไม่มีโอกาศที่จะได้แสดงฝีมือเลยสักครั้ง
(และอาจจะไม่มีโอกาศอีกเลยก็ได้)
ผมเลยไม่รู้อะไรเลยว่าแกจะมีฝีมือขนาดไหน(แต่ก็ไม่แน่ว่าอาจจะพอกับเบียคุยะนี้แหล่ะครับ) อ้อ...แล้วลืมบอกไป
งินเรย์เนี้ยเป็นปู่ของเบียคุยะนะครับ(แถมอาจจะเป้นอาจารย์สอนวิชาให้เบียคุยะด้วยก็ได้นะครับ ใครจะไปรู้[มากกว่าอ.คุโบะ]ครับ)...
แถมอีกคน
นี่คือข้อมูลของพ่อบ้านคุจิกินะครับ
ชื่อปู่แกคือ เซย์เกะ โนบุซึเนะ Seike Nobutsune ค่ะ
เขียนเป็นคันจิ 清家 信恒
เซย์ ของเซย์เกะ แปลว่า บริสุทธิ์ปราศจากมลทิน, เกะ แปลว่าบ้าน
โนบุ ของโนบุซึเนะ แปลว่า เชื่อถือ, ทซึเนะ แปลว่า คงเดิม ไม่มีการเปลี่ยนแปลง
สรุปแล้ว ชื่อแกแปลว่า บ้านสะอาด เืชื่อถือได้แน่นอน(??)
คุจิกิ เบียคุยะ((ญี่ปุ่น: 朽木 白哉 ) อังกฤษ: Kuchiki Byakuya)
เป็นตัวละครจากการ์ตูนเรื่องเทพมรณะ และเป็นยมทูตหัวหน้าหน่วยที่ 6 แห่ง 13 หน่วยพิทักษ์
ลักษณะ/อุปนิสัย
กฏเกณฑที่สถิตอยู่ในแววตา
เบียคุยะ เป็นชายร่างสูง สง่างาม ที่หัวมีปิ่นปักผมของขุนนางชั้นสูง เขาเป็นคนเงียบครึม มักจะไม่ค่อยพูด เคร่งครัดในกฏระเบียบ ไม่ชอบแสดงความรู้สึกทางสีหน้า และที่สำคัญคือมักจะเย็นชากับคนรอบข้างเสมอ จนบางคนออกปากเรียกเขาว่า"เจ้าชายน้ำแข็ง" แต่แท้จริงแล้วเขาเองก็ถือได้ว่าเป็นคนที่รักษาสัจจะอย่างแท้จริงคนหนึ่ง เขาเป็นคนที่มักจะจริงจังต่อการทำงานในหน้าที่และยึดทุกอย่างให้เป็นไปตามกฎที่มีอยู่ ตอนเด็กๆนั้นคนละเรื่อง เพราะกำลังเป็นเด็กหนุ่มร่าเริงสดใส ชอบการฝึกดาบอยู่ที่คฤหาสน์คุจิกิ และชอบทะเลาะกับโยรุอิจิซึ่งตอนนั้นเป็นหัวหน้าหน่วย2เพราะเธอชอบแย่งเชือกมัดผมของเบียคุยะจากนั้นก็ใช้ก้าวพริบตาหนีหายไป
คุจิกิ เบียคุยะ เป็นหัวหน้าตระกูล "คุจิกิ" 1 ใน 4 ตระกูลขุนนางชั้นสูงสุด และว่ากันว่าเบียคุยะนั้นมีฝีมือเก่งกาจที่สุดในประวัติศาสตร์ตระกูลคุจิกิอันยาวนาน เขาเป็นพี่ชายบุญธรรมลูเคีย และเป็นหัวหน้าหน่วย 6 ของ "13 หน่วยพิทักษ์" ซึ่งเขาได้รับลูเคียมาเป็นน้องสาวบุญธรรม เนื่องจากคำสัญญาของเขากับ "ฮิซานะ" ซึ่งเป็นพี่สาวที่แท้จริงของลูเคียและเป็นภรรยาของเขาซึ่งขอให้น้องสาวของตนเรียกเบียคุยะว่าพี่(สรุปง่ายๆก็คือลูเคียเป็นน้องสะใภ้ของเบียคุยะ) ซึ่งนั่นก็ทำให้เขาต้องแหกกฎของตระกูล เขาจึงสาบานต่อหน้าสุสานของพ่อแม่ว่าจะไม่ทำผิดกฎอีกเป็นครั้งที่สอง และปิดเรื่องนี้เป็นความลับตลอดมา (เขาได้หมั้นกับคากาวะ ตอนที่เขายังเด็กๆอยู่ และต้องแต่งงานกับคากาวะเพื่อกู้หน้ากู้ชื่อเสียง ของตระกูลขึ้นมาเพราะเขาไปแต่งงานกับคนที่อยู่ที่ไหนไม่รู้ อย่างฮิซานะและรับใครก็ไม่รู้อย่างลูเคีย มาเป็นน้องสาวบุญธรรม ซึ่งทำให้คุจิกิเสื่อมเสียลงมาก จึงต้องให้คนใดคนหนึ่งซึ่งเป็นหนึ่งในตระกูลขุนนางใหญ่ระดับสูง มาแต่งงานด้วย แต่ทว่าคากาวะกลับหายสาบสูญอย่างสิ้นเชิง)
วันเกิด / 31 มกราคม
ส่วนสูง / 180 เซนติเมตร
น้ำหนัก / 64 กิโลกรัม
ดาบฟันวิญญาณ / เซ็มบงซากุระ
คำปลดปล่อย / “จงโปรยปราย เซ็มบงซากุระ”
บังไค / เซ็มบงซากุระ คาเงโยชิ
ความชอบส่วนตัว / เดินเล่นยามราตรี
ความถนัดส่วนตัว / คัดอักษร
อาหาร / อาหารที่ชอบ - อาหารเผ็ด
อาหารที่ไม่ชอบ - อาหารหวาน
การพักผ่อนสบายๆในวันหยุด / เข้าร่วมวาระประชุมของสี่ตระกูลขุนนาง อ่านหนังสือหรือคัดอักษรเพื่อทำใจให้สงบ
ข้อมูลของหน่วย 6
สัญลักษณ์ของหน่วยคือ ดอกสึบากิหรือดอกคาเมลเลีย ความหมายคือ อุดมคติอันสูงส่ง
ซึ่งความหมายนี้ อธิบายลักษณะนิสัยของทั้งหัวหน้าและรองหัวหน้าหน่วยได้อย่างชัดเจนยิ่ง เป็นหน่วยที่มีระเบียบวินัยและถือเป็นหน่วยที่แข็งแกร่งมากหน่วยหนึ่ง แต่ในอีกด้านหนึ่ง ก็เป็นหน่วยที่สงบเรียบร้อยและเยือกเย็นตามนิสัยของหัวหน้า เพราะเบียคุยะชื่นชอบกิจกรรมที่ทำให้ใจสงบสุขุม ไม่เว้นแม้แต่การเดินชมจันทร์(โดยเฉพาะอย่างยิ่ง วันที่มีลูเคียเดินเป็นเพื่อน)
ภาคโซลโซไซตี้
เขาปรากฏตัวครั้งแรกพร้อมกับรองหัวหน้าหน่วย 6 "อาบาราอิ เร็นจิ"จากคำสั่งปลอมของ "วังกลาง 46 ห้อง" ให้ไปจับตัวลูเคียกลับมาจากโลกมนุษย์ และเบียคุยะนั้นยังเป็นผู้ตัด"โซ่กรรม"ของอิจิโกะ จนอิจิโกะสูญเสียพลังของยมทูตที่ได้มาจากลูเคียไป
หลังจากนั้นเบียคุยะก็ไม่ได้สนใจที่จะช่วยเหลือลูเคีย นั่นเพราะเขาเองได้สาบานแล้วว่าจะไม่แหกกฎอีก ทำให้อยู่ในฐานะกลืนไม่เข้าคายไม่ออก และเขาก็ได้ต่อสู้กับเร็นจิที่ต้องการช่วยลูเคียและเอาชนะได้
ในตอนท้ายของภาคโซลโซไซตี้ เขาได้เข้าต่อสู้กับอิจิโกะและได้ใช้พลังและความสามารถทั้งหมดเท่าที่มีในการต่อสู้ จนในที่สุดเขาก็ยอมและจากไปทั้งที่ยังไม่รู้ผล แต่ในตอนที่ลูเคียกำลังจะโดน"อิจิมารุ งิน"จัดการ เขาก็เอาตัวเองมารับการโจมตีแทน และหลังจากนั้นเขาก็บอกความจริงทั้งหมดเกี่ยวกับพี่สาวของลูเคีย เขาได้พักรักษาตัวเองอยู่ที่โซลโซไซตี้
ภาคเบาท์
เบียคุยะได้ประจำอยู่ที่โซลโซไซตี้ และเมื่อเหล่าเบาท์ได้บุกมาถึงเซย์เรย์เทย์ เขาก็ได้เข้าต่อสู้กับคาริยะ จินหัวหน้าของเหล่าเบาท์ จนถึงขั้นที่เบียคุยะต้องปลดปล่อยสวัสดิกะ แต่อิจิโกะก็เข้ามาช่วยด้วยเสียก่อน ทำให้การต่อสู้จบลงโดยไม่รู้ผลแพ้ชนะ และในช่วงสุดท้ายของภาค เบียคุยะได้เข้าขัดขวางการส่งพลังเพื่อจุดระเบิดพลังวิญญาณ ของคาริยะในระหว่างการต่อสู้กับอิจิโกะร่วมกับโยรุอิจิ และเฝ้ามองการต่อสู้ของทั้งคู่อยู่จนจบ
ภาคอารันคาร์
เบียคุยะไม่ค่อยมีบทมานัก นอกจากการปรากฏตัวในการประชุมในช่วงแรกและการมารับเหล่ายมทูตกลับไปยังโซลโซไซตี้ในช่วงหลัง
ภาคฮูเอโก้มุนโด้
เบียคุยะได้ช่วยเหลือเร็นจิกับลูเคียให้เข้ามาในฮูเอโก้มุนโด้ เพื่อช่วยเหลือพวกอิจิโกะในการต่อสู้เพื่อช่วยเหลือโอริฮิเมะ
นอกจากนั้นยังมาช่วยเหลือลูเคียจากการกวาดล้างของเอสปาด้า หมายเลข 7 ที่ชื่อว่า "โซมารี เลอรูซ์" เบียคุยะใช้เซ็มบ้งซากุระจัดการกับโซมาลีได้เป็นผลสำเร็จ และตามซาราคิ เคมปาจิไปหาอิจิโกะหลังจากที่อิจิโกะสู้กับอุลคิโอร่าเสร็จแล้วและกำลังปะทะกับเอสปาด้าลำดับ10(หรือ0)ยามี่ ริยัลโก้ หลังจากปล่อยให้ซาราคิสู้กับยามี่ ก็พูดเตือนสติอิจิโกะให้รีบกลับไปยังโลกมนุษย์ด้วยความช่วยเหลือของคุโรซึจิ มายูริที่วิเคราะห์และเปิดการ์กันต้าที่ฮูเอโก้มุนโด้สำเร็จ จากนั้นเบียคุยะก็นั่งดูการต่อสูของซาราคิกับคุโรซึจิและเนมอย่างเงียบๆ
ดาบฟันวิญญาณ
เซ็มบงซากุระ
รูปแบบที่ 1 เซ็มบงซากุระ คาเงโยชิ
รูปแบบที่ 2 เซ็มบงซากุระ คาเงโยชิ- เซ็นเคย์ (เงาพิฆาต)
รูปแบบที่ 3 เซ็มบงซากุระ คาเงโยชิ- ชูเคย์ ฮาคุเทย์เค็น (เงาสุดท้าย ดาบจักพรรดิขาว)
ขั้นต้น (ชิไค)
ชื่อ : เซ็นบงซากุระ (ญี่ปุ่น: 千本桜 Senbonzakura ซากุระพันกลีบ ?)
คำปลดปล่อย : "จงโปรยปราย" (ญี่ปุ่น: 散れ chire ?)
ความสามารถ : ตัวคมดาบจะกลายสภาพเป็นกลีบเล็กๆจำนวนนับพันกระจายออกคล้ายกลีบดอกซากุระ ซึ่งจะพุ่งเข้าเฉือนร่างของคู่ต่อสู้อย่างรวดเร็วและรุนแรง และสามารถใช้ในการตั้งรับได้อีกด้วย สามารถกันได้ทุกอย่าง
รูปร่างที่แท้จริง : เป็นผู้ชายร่างสูง ใส่ชุดญี่ปุ่นโบราณ นิสัยเยือกเย็น เงียบขรึม ใส่หน้ากากรูปยักษ์ มีนิสัยเสียคือ ชอบหลอกใช้และโยนความผิดให้คนอื่น
ขั้นปลดปล่อยสวัสดิกะ (บังไค)
ชื่อ : เซ็มบงซากุระคาเงโยชิ (ญี่ปุ่น: 本桜景厳 เงาหาญซากุระพันกลีบ ?)
ความสามารถ : ซึ่งตัวคมดาบทั้งหมดจะแตกออกเป็นกลีบซากุระจำนวนนับไม่ถ้วน และจะเข้าโจมตีคู่ต่อสู้ด้วยความเร็วสูงมากราวกับพายุ และถ้าใช้วิธีควบคุมด้วยมือ ความเร็วก็จะเพิ่มขึ้น2เท่า
รูปแบบที่ 1 = เบียคุยะจะปล่อยดาบจมลงดิน และผุดขึ้นมาเป็นคมดาบยักษ์จำนวนนับไม่ถ้วยเรียงเป็นแถวยาวจนลับสายตา ซึ่งตัวคมดาบทั้งหมดจะแตกออกเป็นกลีบซากุระจำนวนนับไม่ถ้วน และจะเข้าโจมตีคู่ต่อสู้ด้วยความเร็วสูงมากราวกับพายุ และถ้าใช้วิธีควบคุมด้วยมือ ความเร็วก็จะเพิ่มขึ้น2เท่า
รูปแบบที่ 2 เซ็นเคย์ (ญี่ปุ่น: 殲景 เงาพิฆาต ?) = ตัวกลีบคมดาบจะรวมกันกลายเป็นดาบเล็กๆนับร้อยล้อมรอบสถานที่ต่อสู้ ซึ่งเบียคุยะสามารถควบคุมให้ดาบพุ่งเข้ามาหาตัวเองหรือคู่ต่อสู้ได้ตามต้องการ เป็นการโจมตีที่จะปิดช่องทางหนีของศัตรู และจะเน้นการโจมตีเพียงอย่างเดียว
รูปแบบที่ 3 ชูเคย์ (ญี่ปุ่น: 終景 เงาสุดท้าย ?) : ฮาคุเทย์เค็น (ญี่ปุ่น: 白帝剣 ดาบจักรพรรดิขาว ?) = กลีบคมดาบทั้งหมดจะมารวมกันเป็นดาบเดียว ซึ่งจะมีสีขาวส่องประกาย และจะมีแสงเป็นรูปปีกแตกออกสองข้าง เป็นการโจมตีขั้นสุดท้ายของเซ้มบงซากุระคาเงโยชิ
รูปแบบที่ 4 โกเคย์ (วงล้อมพิฆาต) = กลีบเซ็มบงซากุระจะล้อมรอบศัตรูและจะโจมตีพร้อมกันและไม่เคยมีใครรอด (ยกเว้นอิจิโกะแต่ก็เกือบตาย) ปรากฏอีกครั้งเมื่อเริ่มการต่อสู้กับเอสปาดาหมายเลย 7 โซมารี เลอรูส์
ร่างของ Senbonzakura
ข้อมูลมาจาก: ข้อมูล BLEACH เทพมรณะ (ขั้นเทพ)